Learning
Log ในชั้นเรียน
การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ มีความสำคัญมากในปัจจุบัน
ซึ่งเป็นที่รู้กันมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นภาษากลางของโลก
ที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันทั่วโลก
การเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งนั้นจะต้องเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ
คือเน้นการมีส่วนร่วมทางภาษาให้มากที่สุด คือ ผู้เรียนต้องเรียนรู้จากการฟังและการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ
จนเกิดทักษะ เช่น การพูดคุยกับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ
การถามไถ่กิจวัตรประจำวันเป็นภาษาอังกฤษ การฟังวิทยุภาษาอังกฤษ
ซึ่งเราเริ่มต้นจากสิ่งที่ง่ายๆ ที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันแล้วค่อยขยายออกโลกภายนอก
จากการอ่านตำราเรียน ไวยากรณ์ และ vocabulary เป็นต้น
การเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งเราต้องรู้หลักไวยากรณ์ต่างๆ อย่างครบถ้วน
โดยจะยกตัวอย่างการใช้ Adjective clause (Relative clause) Adjective
clause คือ subordinate clause ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนคำ
adjective คำหนึ่ง ทำหน้าที่ ขยายคำนาม และคำสรรพนาม
แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
- De fining Relative clause ทำหน้าที่ขยาย คำนาม หรือคำสรรพนาม ที่เป็น head word ของประโยค main clause โดยจะไม่ใส่ common ( , ) เพราะถือว่า relative clause ชนิดนี้มีความสำคัญ หากตัดออกจะทำให้ความหมายของประโยคหลักไม่สมบูรณ์เช่นThe man whose car was stolen complained to the polite.
- The man complained to the polite.เป็นประโยคหลักที่ยังมีใจความ ไม่สมบูรณ์จึงต้องมี
- His car was stolen ซึ่งเป็น Adjective clause มาขยาย manทำให้ความหมายสมบูรณ์ และเมื่อเชื่อม A เข้ากับ B ให้นำ Relative pronoun
- whose มาเชื่อมแทน hisเมื่อใช้ Relative Pronoun แทนคำนามหรือคำสรรพนามในประโยคแล้วให้ตัดคำนาม หรือคำสรรพนาม ที่ Relative pronoun นั้นใช้แทนออกไป
- Non-Defining Relative clause จะวางไว้หลังคำนามหลักของประโยค main clause ซึ่งคำนามนั้นมีความหมายสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว การใส่ non-defining relative elative clause จึงไม่ได้หมายความว่าไปขยายคำนามที่เป็น head word ของประโยค main clause แต่ใส่ non-defining relative clause จึงไม่ได้ หมายความว่าไปขยายคำนามที่เป็น head word ของประโยค main clause แต่ใส่ non-defining relative clause เพื่อเป็นการเติมข้อมูลของ คำนามหลักเท่านั้น ดังนั้น non defining relative clause จึงมี comma ( , ) คั่นกลางกับคำนามหลัก เช่น we stayed at the Royal Hotel, which William recommended to us
- จะเห็นได้ว่า ประโยค We stayed at the Royal Hotel มีความหมายที่สมบูรณ์อยู่แล้ว การเพิ่มประโยค Which William recon maded to us ซึ่งขยายคำ นาม the Royal Hotel เป็นเพียงการเพิ่มเติมข้อมูลลงไป และต้องใส่ comma คั่น
- His house, Which is on Sukhumvit Road, is a two-storey hose
- His wife, who teaches English at MDA, got a Ph.D. from the USA.
จากการยกตัวอย่างการใช้ Adjetire Clause จะทำให้เห็นว่าไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
มีความสำคัญมากที่เราจะต้องมีความรู้ ไวยากรณ์เป็นรากฐานให้คนเข้าใจสื่อสารได้รู้เรื่องตรงกัน
ถ้าเรารู้แค่คำศัพท์เพียงอย่างเดียว ถ้าวางรากฐานผิดก็จะเกี่ยวโยงให้ประโยคผิดไปด้วย
อย่างเช่นในการเรียนการสอนในห้องเรียน
เราไม่สามารถรับข้อมูลที่เรียนรู้มาได้จากครูทั้งหมด
เราต้องหาความรู้เพิ่มเติมจากข้างนอกเพื่อเป็นความรู้เสริม เช่น การฟังข่าวสารเป็นภาษาอังกฤษ
การอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ เพื่อให้เราได้ทันข่าวสารโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น